วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แปลเพลง All Time Low - The Wanted




Praying won't do it
การสวดมนต์ไม่ช่วยให้ดีสักนิด
Hating won't do it
การเกลียดก็ไม่ทำให้กระทบกระท้านสักนิด
Drinking won't do it
ดื่มเหล้าไม่ทำให้ดีขึ้นเลย
Fighting won't knock you out
Of my head
โดนต่อยหัวก็แล้ว ยังไม่สามารถเอาเธอออกจากความคิดไดัเลย

Hiding won't hide it
ฝืนหลบก็ยังแสดงอาการออกมาอยู่ดี
Smiling won't hide it
ยิ้มหน้าบานก็ยังซ่อนมันไม่มิด
Like I ain't tried it
ดูเหมือนกับว่าฉันไม่พยายามที่จะทำเลยสักนิด
Everyone's tried it now
ใครๆก็ต่างหาวิธีช่วยฉันแต่
And failed somehow
ไม่ว่ายังไงก็ยังไม่สำเร็จอยู่

So when you gonna let me
แล้วเมื่อไหร่ที่เธอจะปล่อยฉัน
When you gonna let me out, out
เมื่อไหร่ที่เธอจะออกจากความคิดของฉัน

And if you know
ถ้าเธอรู้วิธี
How do you get up from an all time low?
ที่ทำให้ฉันผ่านพ้นอาการเพ้อถึงเธอได้ละก็ บอกฉันหน่อยนะ
I'm in pieces
ฉันนะอาการหนักสุดๆเลย
It seems like peace is
ดูเหมือนคำว่า สงบสติ
The only thing I'll never know
คือสิ่งเดียวที่ฉันสะกดมันไม่เป็น
How do you get up?
เธอทำมันได้ยังไง
Get up?
ตื่นจากฝันเหรอ

'Cause driving won't do it
ผลักไสก็แล้ว แต่ยังไงก็ยังเหมือนเดิม
Flying won't do it
พยายามหนีก็ยังไม่ได้ผล
Denying won't do it
ฝึกหักห้ามใจก็เอาไม่อยู่
Crying won't drown it out
ร้องไห้ก็ไม่ถีบมันออกจากหัวเลย
What you said
ทุกคำพูดที่เธอพูดกับฉัน

When I'm standing on the yellow line
ในขณะที่ฉันยืนอยู่บนเส้นเหลือง
Waiting at the station
รอต่อคิวเข้ารถไฟ
Or I'm late for work
ไม่ก็ไปทำงานสาย
A vital presentation
มีการนำเสนอโปรเจกต์ใหญ่ๆ
If you call me now girl
ถ้าเธอเรียกหาฉันตอนนี้นะ
Without reservation
เรียกแบบไม่มีการจองตัวล่วงหน้า
I would try to break through
ฉันก็จะวิ่งตรงไปหาเธอเลยทันที แม้จะต้องหยุดรถไฟก็ตาม

But if you know
แต่ถ้าเธอรู้วิธี
How do you get up from an all time low?
ที่ทำให้ฉันผ่านพ้นอาการเพ้อถึงเธอได้ละก็ บอกฉันหน่อยนะ
I'm in pieces
ฉันนะอาการหนักสุดๆเลย
It seems like peace is
ดูเหมือนคำว่า สงบสติ
The only thing I'll never know
คือสิ่งเดียวที่ฉันสะกดมันไม่เป็น
How do you get up?
เธอทำมันได้ยังไง

I can't even find a place to start
ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มที่ตรงไหนดี
How do I choose between my head and heart?
ฉันจะเลือกทำตามหัวใจแล้วปล่อยให้เธอสิงสถิตให้ความคิดต่อไป หรือทำตามสมองสั่ง หาวิธีสลัดเธอไปดี?
Till it ceases I'll never know
ฉันจะไม่มีวันเลือกได้เลย จนกว่าทุกอย่างๆจะจบลง
How do you get up from an all time low?
ฉันต้องทำยังถึงหายเพ้อถึงเธอ

A low
ตกต่ำสุดๆเลย
Can you hear me?
เธอได้ยินฉันมั้ย
A low 
ย่ำแย่สุดๆเลย
Can't you hear me?
เธอไม่ได้ยินฉันเหรอ
A low 
ตกต่ำสุดๆเลย
Can you hear me?
เธอได้ยินฉันมั้ยบ้างมั้ย
A low 
ย่ำแย่สุดๆเลยล่ะ

แปลเพลง Falling Fast - Avril Lavigne


I woke up and saw the sun today
ฉันตื่นนอนและนั่งมองพระอาทิตย์ในวันนี้
You came by without a warning
เธอเข้ามาในชีวิตโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว
You put a smile on my face
เธอทำให้ฉันยิ้มได้
I want that for every morning
นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันต้องการทุกเช้าวันใหม่

What is it I'm feeling?
ความรู้สึกนี้มันคืออะไรนะ
'Cause I can't let it go
รู้แต่ว่าฉันปล่อยมันผ่านไปไม่ได้
If seeing is believing
ถ้าใครๆพากันพูดว่า ไม่เจอกับตา ก็จะไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด
Then I already know
งั้นฉันก็รู้แล้วล่ะว่า

I'm falling fast
ฉันรักเธอเข้าอย่างจัง
I hope this lasts
ฉันหวังว่าครั้งนี้จะเป็นรักสุดท้าย
I'm falling hard for you
ฉันตกหลุมรักเธอ
I say "Let's take a chance"
ฉันพูด มาคว้าโอกาสนี้กันเถอะ
Take it while we can
สร้างความรักขึ้นด้วยกันในตอนที่เรายังมีโอกาส
I know you feel it too
ฉันรู้นะว่าเธอรู้สึกเหมือนกัน
I'm falling fast
ฉันรักเธอเข้าอย่างจัง
I'm falling fast
ฉันตกหลุมรักเธอ

It doesn't matter what we do
ไม่สำคัญว่าสิ่งที่เราทำคืออะไร
You make everything seem brighter
เธอทำให้ทุกอย่างสวยงามไปหมด
I never knew I needed you
ฉันไม่รู้ว่าฉันต้องการเธอ
Like a sad song needs a sea of lighters
เหมือนกับเพลงเศร้าต้องการตอนจบที่จบลงอย่างสวยงาม

I hope you know
ฉันหวังว่าเธอจะรู้
I hope it lasts
ฉันหวังว่ามันจะเป็นรักสุดท้ายของฉัน
I'm falling hard, I'm falling fast
ฉันตกหลุมรักเธอและตกหลุมเข้าอย่างจัง
We can go, no holding back
เราเดินไปดัวยกัน และจะไม่มีการปิดกั้นอะไรทั้งสิ้น




วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แปลเพลง Beethoven - Union J



It feels like whiskey and butterflies
มันเหมือนกับวิสกี้กับผีเสื้อปั่นป่วนอยู่ในท้อง
Like midnight kisses in the morning light
เหมือนกับจูบราตรีท่ามกลางแสงอาทิตย์
Wakin' up with you, here by my side
ฉันตื่นเช้าขึ้นมาโดยมีเธออยู่ข้างกาย
You leave me breathless, leave me breathless
เธอทำให้หัวใจฉันเต้นรัว หายใจแทบไม่ออก

I'm tasting sandalwood on your skin,
ฉันสัมผัสผิวที่เนียมนุ่มของเธอราวกับสัมผัสไม้สีดนตรี
When it ends I only wanna start again
เมื่อทุกๆอย่างจบลง ฉันอยากจะเริ่มมันอีกครั้ง
I say your name and it's a violin
ฉันพูดชื่อเธอราวกับเสียงไวโอลิน
You leave me breathless, leave me breathless
เธอทำให้หัวใจฉันหวั่นไหว หายใจแทบไม่ออก

Tonight, tonight, tonight you are my music
คืนนี้ เธอคือเสียงดนตรีของฉัน
Move my heart like a metronome
อัตราการเต้นหัวใจก็เปรียบเป็นเครื่องนับจังหวะดนตรี
Tonight, tonight, tonight I wanna lose it
คืนนี้ ฉันอยากจะทำใจฉันหล่นไปอยู่กับเธอ
I'll be the only song, you'll ever know
ฉันจะเป็นบทเพลงที่เธอไม่เคยล่วงรู้มาก่อน
(Oh, oh) I'll play you like an instrument,
ฉันจะเล่นเธอให้เหมือนว่าเธอเป็นดนตรี
Let me be your Beethoven
ให้ฉันเป็นบีโธเว่นของเธอเถอะ
(Oh, oh) I'll play you like an instrument,
ฉันจะเล่นเธอให้เหมือนว่าเธอเป็นดนตรี
Let me be your Beethoven
ให้ฉันเป็นบีโธเว่นของเธอเถอะ

It's like we're caught up in an endless dream
เหมือนกับเรากำลังไล่ตามความฝันที่ไม่มีสิ้นสุด
The clocks don't tick when you hold on to me
เข็มนาฬิกาหยุดเดิน ในยามที่เธอกุมมือฉัน
We're keeping the rhythm so perfectly
เราต่างมีท่วงทำนองดนตรีที่สมบูรณ์แบบ
You leave me breathless, leave me breathless
เธอทำให้ฉันหัวใจเต้นรัว หายแทบไม่ออก

วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แปลเพลง Saturday - Rebecca Black & Dave Days


(Oh my god, I love this song. 
โอ้ พระเจ้า ฉันชอบเพลงนี้จังเลย
This is my jam! Where is the peanut butter?)
นี่ไงแยมรสโปรดของฉัน ว่าแต่เนยถั่วฉันอยู่ไหนล่ะ
2pm, getting out of my bed
นี่ก็บ่ายสองแล้ว ตื่นออกจากเตียงซะทีสิ
Tryin to get Friday out of my head
พยายามสะบัดวันศุกร์ออกจากหัวตัวเอง
It's all so hazy, got a little too crazy
ฉันยังรู้สึกมึนๆไม่หาย มันอาจจะฟังดูบ้าไปหน่อย
You know I'd do it all again
แต่เธอรู้ว่าฉันจะปาร์ตี้อีกสักรอบ
Call everyone you know
บอกทุกคนที่เธอรู้จักมาสิ
turn up the radio
เปิดวิทยุดังๆ
'cause this is our song
เพราะนี่คือเพลงของเรา
we can do no wrong
ปาร์ตี้ที่เราจะทำอะไรก็ได้
Are you ready, are you ready to go?
เธอพร้อมยัง พร้อมที่จะไปยัง

This saturday, we gon' party all night
เสาร์นี้ เราจะปาร์ตี้กันทั้งคืน
One we will remember for the rest of our lives
ให้เป็นคืนที่เราจะจดจำไปยันวันตาย
This Saturday, we gon' do it bigger than, we ever had before
เสาร์นี้ เราจะทำให้มันยิ่งใหญ่กว่าที่เราเคยมีมา
I don't want this Saturday to end
ฉันไม่อยากให้วันเสาร์นี้จบลงเลย

(Brrpt, brrpt, "Hello?" "Hey, come over."
ฮัลโหล? เฮ้ มาหาฉันหน่อย
"Alright, alright, I'll be right over, I just gotta find my...pants.")
ได้ๆ เดี๋ยวฉันไป แต่ก่อนอื่นฉันต้องหากางเกงตัวเองก่อนนะ...

Rollin' up in my new scene
เปลี่ยนมามองอีกมุมหนึ่งของฉันสิ
Want you here right next to me
ฉันล่ะอยากให้เธอมาอยู่ข้างๆจัง
 'cause this our night, ain't got no deadlines
เพราะคืนนี้ของเราจะไม่มีวันเลิกรา
There's nowhere else I'd rather be
ไม่มีที่ไหนทีฉันอยากไปแล้วล่ะ

Yesterday was Friday, today is Saturday
เมื่อวานคือวันศุกร์ วันนี้คือวันเสาร์
We gonna live like there's no tomorrow
เราจะปาร์ตี้ให้เหมือนกับวันนี้เป็นวันสุดท้ายของโลก
Wouldn't have it any other way
ให้เหมือนกับเราจะไม่มีวันได้ทำกันแบบอีกแล้ว



วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แปลเพลง In Your Words - Rebecca Black

  
What you don't know
สิ่งที่เธอไม่เคยรับรู้
What you can't see
สิ่งที่เธอไม่อาจมองเห็นได้
What you don't realize you once had until you see that it's not free
สิ่งที่เธอไม่เคยรับรู้ว่าครั้งหนึ่งเธอเคยมีจนเธอรู้ว่ามันไม่เป็นเหมือนอย่างเดิม
 And as for us
เหมือนกับเรื่องของเรา
It's not clear
ที่ยังคงค้างคา
 The clouds ain't always bad if when they fade it's love
การบอกลาไม่ได้เป็นเรื่องแย่เสมอไป แต่เมื่อความรักจืดจางลงไป
That they reveal
การจากลาคือสิ่งที่เราควรทำ
And I'm moving on
ฉันก้าวไปข้างหน้า
Cause you set me free
เพราะเธอปล่อยมือฉันไป
And I'm trying to be as much of myself as if you were here with me
ฉันพยายามเป็นตัวเองเหมือนอย่างฉันเคยอยู่กับเธอ
And I'm feeling lost
ฉันรู้สึกสูญเสียทุกๆอย่าง
But it's not unheard
แต่คำพูดที่เธอพูดไว้กลับไม่เคยจางหายไปจากหัว
And while you go on living your life
ในขณะที่เธอใช้ชีวิตตามทางของเธอ
I'm still stuck here
ฉันกลับติดแง็กอยู่ตรงนี้
Living in your words
อยู่กับคำบอกรักของเธอ

Well there was good
มีเรื่องราวดีๆ
And there was bad
และแย่ๆปนกันไป
But I took for granted the way you made me laugh
แต่ฉันเลือกที่จะจำเวลาที่เธอทำให้ฉันหัวเราะ
And the way you spoke

เวลาที่เธอพูด
Only I could hear

แล้วทำให้ฉันได้ยินแค่เสียงเธอเพียงคนเดียว
And the way I saw myself in you as if I were
เวลาที่ฉันมองก็เหมือนกับการ
Staring in a mirror
ฉันนั่งส่องกระจกมองตัวเอง
Oh oh


And I'm feeling lost

ฉันรู้สึกท้อแท้
 Cause it's not unheard
เพราะคำพูดของเธอไม่เคยจางหายไปจากหัวของฉัน
And while you go on living your life

ในขณะที่เธอใช้ชีวิตตามทางของเธอ
I'm still stuck here

ฉันกลับติดแง็กอยู่ตรงนี้
Living in your words

อยู่กับคำบอกรักของเธอ

วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แปลเพลง Whataya Want From Me - Adam Lambert




Hey, slow it down
เฮ้ ใจเย็นๆ
Whataya want from me?
เธออยากได้อะไรจากฉัน
Whataya want from me?
เธออยากได้อะไรจากฉัน
Yeah I'm afraid
ฉันชักจะกลัวแล้วสิ
Whataya want from me?
เธออยากได้อะไรจากฉันเหรอ
Whataya want from me?
เธออยากได้อะไรจากฉัน

There might have been a time
มันคงจะถึงเวลาแล้วล่ะ
When I would give myself away
ที่ฉันจะต้องเลิกทำตัวงี่เง่าซะที
Oh, once upon a time
จากกาลครั้งหนึ่ง
I didn't give a damn
ฉันคนที่ไม่สนใจอะไรเลย
But now, here we are
แต่ในวันนี้ เราอยู่กันตรงนี้
So whataya want from me?
พูดมาเลยดีกว่า เธอต้องการอะไรจากฉัน
Whataya want from me?
เธอต้องการอะไรจากฉัน

Just don't give up, I'm workin it out
อย่าเพิ่งยอมแพ้ ฉันกำลังแก้ไขตัวเองอยู่
Please don't give in, I won't let you down
อย่าท้อถอย ฉันไม่ปล่อยให้เธอผิดหวังเด็ดขาด
It messed me up, need a second to breathe
ถึงมันจะทำ แต่ขอเวลาให้ฉันหน่อย
Just keep coming around
ขอแค่ให้เธอรอคอยมัน
Hey, whataya want from me?
แล้วเธออยากได้อะไรจากฉัน
Whataya want from me?
เธออยากได้อะไรจากฉันเหรอ
Whataya want from me?
อยากได้อะไรจากฉัน


Yeah, it's plain to see (plain to see)
มันง่ายมากที่จะเห็น
That baby you're beautiful
ว่าเธอนั้นงดงามแค่ไหน
And there's nothing wrong with you
และเธอไม่ได้ทำผิดอะไรทั้งนั้น
It's me, I'm a freak (yeah)
แต่ฉันต่างหากที่ทำตัวงี่เง่าเอง
But thank you for lovin' me
ขอบคุณนะที่สำหรับความรักของเธอ
Cause you're doing it perfectly
เพราะเธอทำมันได้ดีเยี่ยมเลยแหละ


There might have been a time
มันคงถึงเวลาแล้วล่ะ
When I would let you slip away
ที่ฉันจะต้องปล่อยเธอเดินจากไป
I wouldn't even try
ฉันจะไม่ฝืนอีกทีต่อไป
But I think you could save my life
แต่ฉันคิดว่าเธอเท่านั้นที่จะเป็นคนสานมันต่อได้

วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แปลเพลง Where Are You Now - Union J


 

เวสกัสว่าver.acoustic เพราะกว่าver.original อีก555


I guess I wanted you to believe
ฉันเดาว่าฉันเคยอยากให้เธอเชื่อว่า
That nothing really mattered to me
ไม่มีอะไรที่สำคัญกับฉันทั้งนั้น
I told myself that if you were gone
และฉันก็บอกกับตัวเองว่า ถ้าเธอจากฉันไป
I'd just carry on
ฉันจะไม่เป็นอะไร

But trying to move on only hurts
แต่แค่ลองขยับตัวไปมา ฉันก็รู้สึกเจ็บแล้ว
It's one step forward, and two in reverse
เหมือนกับการเดินหน้าหนึ่งก้าว แล้วถอยหลังไปสองก้าว
But since the moment I let you leave
ตั้งแต่วันที่ฉันปล่อยให้เธอจากไป

All I see is you
ทุกสิ่งที่ฉันเห็นก็คือเธอ
When I wake up
เวลาที่ฉันตื่นนอน
You, when I talk
เห็นแค่เธอ เวลาที่ฉันพูด
You, when I lie down
เห็นแค่เธอ เวลาที่ฉันหมอบนอน
You, when I walk
เห็นแค่เธอ เวลาที่ฉันเดิน
You, when I'm sleeping
เห็นแค่เธอ เวลาที่ฉันนอนหลับ
You, when I try to breath
เห็นแค่เธอ เวลาที่ฉันพยายามหายใจ

(You just keep on haunting me)
เธอกำลังตามหลอกหลอนฉัน

I'll get over the way that you got over me
ฉันจะยอมรับให้ได้ว่าเธอบอกเลิกฉัน
I know that I'll make it there eventually
ฉันรู้ว่าในที่สุดฉันก็เลือกที่จะ
Get my heart to erase somehow
ลบความรักออกจากหัวใจไปให้หมด ไม่ว่าวิธีใดก็ตาม
And stop wondering where are you now
และฉันก็จะได้เลิกพร่ำหาเธอซะที

If I gave it all to someone else instead
ถ้าฉันให้หัวใจกับคนอื่นที่มาแทนที่เธอ
Will you pack your bags and get out of my head?
เธอจะเก็บของใส่กระเป๋าแล้วออกจากหัวของฉันได้มั้ย
Someday I won't even look around
บางวัน ฉันไม่แม้แต่จะมองสิ่งรอบข้าง
I'll stop wondering where are you now
ฉันจะไดัเลิกตามหาเธอซะที

Oh, oh, oh, oh, oh
Oh, oh, oh, oh, oh

I never wear my heart on my sleeve
ฉันไม่เคยตกหลุมรักใคร
I was always my enemy
ฉันคอยขัดขวางใจตัวเองเสมอ
Since the moment I let you leave
นับตั้งแต่วันที่ฉันปล่อยให้เธอเดินจากไป


วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แปลเพลง Monster - Imagine Dragon

 


Ever since I could remember,
เท่าที่ฉันจำได้นะ
Everything inside of me,
ทุกๆสิ่งที่อยู่ข้างในใจฉัน
Just wanted to fit in (oh oh oh oh)
ฉันอยากจะเป็นที่ยอมรับกับทุกๆคน
I was never one for pretenders,
ฉันไม่เสแสร้งกับใครๆ
Everything I tried to be,
แต่ทุกๆอย่างที่ฉันพยายามมา
Just wouldn't settle in (oh oh oh oh)
มันกลับไม่เปลี่ยนแปลง 

If I told you what I was,
ถ้าฉันบอกเธอถึงตัวตนที่ฉันเป็น
Would you turn your back on me?
เธอจะหันหลังใส่ฉันมั้ย
And if I seem dangerous,
และถ้าฉันเป็นตัวอันตราย
Would you be scared?
เธอจะรู้สึกกลัวหรือเปล่า
I get the feeling just because,
ฉันยังคงมีความรู้สึก เพราะ
Everything I touch isn't dark enough
ทุกๆสิ่งที่ฉันรับรู้ มันไม่ได้มืดไปซะหมด
If this problem lies in me
ถ้าปัญหานี้มันอยู่ที่ตัวของฉัน

I'm only a man with a candle to guide me,
ฉันก็คงเป็นคนเดียวที่จะนำแสงไฟมาให้กับตัวเอง
I'm taking a stand to escape what's inside me.
ฉันยอมรับกับสิ่งที่หลบซ่อนอยู่ในใจฉัน

A monster, a monster,
มอนสเตอร์ตัวหนึ่ง
I've turned into a monster,
ฉันกลายเป็นมอนสเตอร์
A monster, a monster,
มอนสเตอร์ตัวหนึ่ง
And it keeps getting stronger.
และมันก็แข็งแกร่งขึ้นทุกวัน

Can I clear my conscience,
ฉันสามารถล้างความผิดออกจากตัวได้มั้ย?
If I'm different from the rest,
ถ้าฉันเกิดมาแตกต่างจากคนอื่นๆ
Do I have to run and hide? (oh oh oh oh)
แล้วฉันจำเป็นที่จะต้องวิ่งไปหลบซ่อนตัวด้วยเหรอ?
I never said that I want this,
ฉันไม่เคยพูดว่าฉันต้องการมันเลย
This burden came to me,
ปัญหาวุ่นๆมันเข้ามาหาฉันเองต่างหาก
And it's made it's home inside (oh oh oh oh)
และมันก็มาแบบไม่จากฉันไปไหน

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แปลเพลง TKO - Justin Timberlake

เปิดมาประโยคแรกก็ทำเอาเวสกัสเงิบไปอยู่นาน5555




Kill me with the coo-coochie-coochie-coo
ฆ่าฉันด้วยจิมิ๋น้อยสิ
She kill me with the coo-coochie-coochie-coo
เธอฆ่าฉันด้วยจิมิ๋น้อยสิ

Lights out, TKO
จบลงแล้ว TKO

Baby, everyday you're training to get the gold
ที่รัก ทุกวันๆ เธอฝึกฝนตัวเองเพื่อให้ได้รางวัลชนะมา
That's why your body's crazy
และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมร่างกายของเธอถึงแข็งแกร่งสุดๆ
But you can't run from yourself,
แต่เธอไม่สามารถที่จะหนีจากตัวตนที่แท้จริงของเธอได้
That's where it's difficult
มันเป็นอะไรที่ยากมากๆ

Girl I can see in your eyes
ที่รัก ฉันเห็นมันในดวงตาของเธอนะ
That there's something inside
บางสิ่งที่อยู่ในนั้น
That made you evil
และมันก็ทำให้เธอกลายเป็นปีศาจร้าย
Where did you go,
เธอจากไปไหน
'cause it just ain't fair
เพราะมันไม่ยุติธรรมเลย
Over here thinking 'bout the shit you say
ฉันอยู่ตรงนี้และมั่วแต่คิดถึงคำพูดบ้าๆที่เธอพูดออกมา
Don't know why it gets to me
ไม่รู้เลยว่าทำไมมันถึงต้องเกิดขึ้นกับฉัน

It cuts right on my eye, yeah it hurt, won't lie
สายตาฉัน ใช่ มันเจ็บและไม่มีการโกหกอีกแล้ว
Still can't see, think I saw you with another guy
ยังไม่เห็นแน่ชัก แต่ฉันก็คิดว่าฉันเห็นเธอไปอยู่กับผูัชายคนอื่นมา
Fair fight, knocked down, then I got over you
สู้อย่างแฟร์ๆ โดนเธอน๊อคใส่ แล้วฉันก็สูญเสียเธอไป
Can't fight no more, you knock me out
ไม่อาจสู้ได้อีกต่อไป เธอน็อคฉันลง
What am I supposed to do?
แล้วฉันทำอะไรต่อได้อีกล่ะ

I don't understand it
ฉันไม่เข้าใจสักนิด
Tell me how could you be so low
บอกฉันทีสิ ว่าเธอทำยังไงให้กลายเป็นคนต่ำทรามได้อย่างนี้
Been swinging after the bell and after all of the whistle blows
ต่อยใส่ฉันไม่ยั้ง ทั้งๆที่ระฆังและเสียงนกหวีดดังขึ้นแล้ว
Tried to go below the belt, through
my chest, perfect hit to the dome, dammit babe
พยายามที่จะเล็งใต้เข็มขัด ขึ้นไปยังอกและชกสวยๆที่หัวของฉัน เวรเถอะ 

This ain't the girl I used to know
นี่มันไม่ใช่ผู้หญิงคนที่รู้จักเลย
No, not anymore, TKO
ไม่เลยสักนิด TKO

I'm out for the count
ฉันถูกออกจากการแข่ง
Yeah, girl, you knock me out
ใช่ ที่รัก เธอน๊อคฉัน
It's just a TKO
ก็แค่TKO
I'm out for the count
ฉันถูกออกจากการแข่ง
Yeah, girl, you knock me out
ใช่ ที่นัก เธอน๊อคฉัน
With a TKO
ด้วยTKO 
T-TKO

Baby, now I don't really know what we're fighting for
ที่รัก ฉันไม่รู้เลยจริงๆว่าเรากำลังต่อสู้เพื่ออะไร
This rematch sex is amazing
การต่อสู้ครั้งนี้มันเป็นอะไรสุดยอด
But nobody wins if somebody's heart is slow
แต่ก็คงจะไม่มีทางเอาชนะ ถ้าใจของอีกคนยังเชื่องช้าไร้การตอบสนอง
'Cause when I see you move like you got something inside that made you lethal
เวลาที่ฉันเห็นเธอขยับซ้ายขวา มันเหมือนกับเธอมีอะไรบางอย่างที่เป็นอันตรายซ่อนอยู่

Where did you go, it just ain't fair
เธอไปอยู่ไหนมา มันไม่ยุติธรรมทำเลย
Over here thinking 'bout the shit you do
ฉันอยู่ตรงนี้ มั่วแต่คิดถึงสิ่งบ้าๆที่เธอทำ
Don't know what I got to lose
ไม่รู้เลยว่าฉันจะต้องสูญเสียอะไรบ้าง

Girl, see what you do
ที่รัก ดูสิ่งที่เธอทำสิ
See what you do, girl?
เห็นสิ่งที่เธอยัง ที่รัก
You, you, you knock me right out
เธอน็อคให้ฉันล้มลง
Hey girl
ที่รัก
Girl, see what you do
ดูสิ่งที่เธอทำสิ
See what you do, girl, girl, girl, girl...
เห็นสิ่งตัวเองหรือยัง ที่รัก
You knock me right out
เธอน๊อคฉันให้ออกจากการแข่ง


TKO ก็คือการน๊อคที่อีกฝ่ายไม่อาจจะกลับมาต่อสู้ได้อีก 
อย่างนับหนึ่งถึงสิบไม่ลุกขึ่นมา ฝ่ายนั้นก็แพ้ไป 

Dome เป็นคำแสลงมีสองความหมายคือ หัว 
และอีกอันก็คือ blow job (การอมไอติมให้ผู้ชาย)

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แปลเพลง Endlessly - The Cab



There's a shop down the street,
ร้านขายของตามข้างทางถนน
where they sell plastic rings,
ที่ๆพวกเขาแหวนพลาสติกกัน
for a quarter a piece, I swear it.
Yeah, I know that it's cheap,
ใช่ ฉันรู้ว่ามันราคาถูก
not like gold in your dreams,
ไม่ใช่ทองคำเหมือนในฝันของเธอ
but I hope that you'll still wear it.
แต่ฉันก็หวังว่าเธอจะยอมใส่มัน

Yeah, the ink may stain my skin,
หมึกอาจจะเปื้อนตัวของฉัน
and my jeans may all be ripped.
กางเกงยีนอาจจะขาดหมดทั้งตัว
I'm not perfect, but I swear,
ฉันไม่ใช่คนเพอร์เฟคหรอกนะ แต่ฉันสาบานได้
I'm perfect for you.
ฉันน่ะเพอร์เฟคสำหรับคุณ

..and there's no guarantee,
มันไม่มีอะไรมาการันตี
that this will be easy.
ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามที่คิด
It's not a miracle ya need, believe me.
ความรักครั้งนี้ถึงมันจะไม่เป็นในแบบที่เธอต้องการ แต่เชื่อฉันสิ
Yeah, I'm no angel, I'm just me,
ฉันไม่ใช่เทวดา เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง
but I will love you endlessly.
แต่ฉันคนนี้จะรักเธออย่างไม่มีที่สิ้นสุด
Wings aren't what you need, you need me.
ปีกนะไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ สิ่งที่เธอต้องการคือฉันต่างหาก

There's a house on the hill,
บ้านเล็กๆบนภูเขา
with a view of the town,
กับวิวสวยๆที่มองเห็นเมือง
and I know how you adore it.
และฉันรู้ว่าเธอชอบมันมากๆ
So I'll work everyday,
แล้วฉันจะทำงานทุกๆวัน
through the sun, and the rain,
จะผ่านร้อนผ่านหนาว
until I can afford it.
จนกว่าฉันจะซื้อบ้านเล็กนั้นได้

Yeah, your friends may think I'm crazy,
เพื่อนของเธอคิดว่าฉันปัญญาอ่อน
cause they can only see,
เพราะพวกเขาทำได้แค่เห็น
I'm not perfect, but I swear, I'm perfect for you.
ฉันไม่ใช่คนเพอร์เฟคอะไรนั่นหรอก แต่ฉันน่ะเพอร์เฟคสำหรับเธอ ฉันสาบานได้


วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แปลเพลง Story Of My Life - One Direction



Written in these walls are the stories that I can't explain,
เรื่องราวที่ถูกเขียนไว้บนกำแพงเป็นสิ่งที่ฉันไม่อาจอธิบายได้
I leave my heart open but it stays right here empty for days.
ฉันเปิดใจรับแต่มันก็ยังคงว่างเปล่า

She told me in the morning she don't feel the same about us in her bones,
เธอบอกกับฉันว่า ในตอนเช้าของวันพรุ่งนี้ เรื่องของเราจะเปลี่ยนไป
It seems to me that when I die these words will be written on my stone.
มันเหมือนกับว่า คำพูดเหล่านั้นจะถูกสลักลงในหลุมศพของฉัน เมื่อฉันตายไป

And I'll be gone gone tonight
และฉันจะเดินจากไปในคืนนี้
The ground beneath my feet is open wide
พื้นดินใต้ฝ่าเท้าได้เปิดทางให้กับฉันแล้ว
The way that I been holdin' on too tight
ฉันยึดติดกับความรักมากเกิน
With nothing in between
จนไม่มีดีๆอะไรเกิดขึ้นกับฉันเลย

The story of my life I take her home
ชีวิตเส้งเคร้งของฉัน ฉันพาเธอกลับบ้าน
I drive all night to keep her warm and time…
ขับรถไปทั้งคืนเพื่อให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจและเวลา
Is frozen (the story of, the story of)
ราวกับได้ถูกหยุดไว้

The story of my life I give her hope
ชีวิตสุดห่วยของฉัน ฉันให้ความหวังกับเธอ
I spend her love until she's broke inside
ฉันได้ความรักจากเธอจนกระทั่งฉันทำเธอใจสลาย
The story of my life (the story of, the story of)
นี่แหละชีวิตที่เส้งเคร้งของฉัน

Written on these walls are the colours that I can't change
สีตัวอักษรที่ถูกเขียนไว้บนกำแพง ไม่สามารถจะแก้ไขมันได้
Leave my heart open but it stays right here in its cage
ถึงจะเปิดหัวใจให้ว่างเปล่าแต่ก็รู้สึกยังกับอยู่ในกรงอยู่ดี

I know that in the morning now, I'll see us in the light upon a hill
ฉันรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นในเช้านี้ แต่ฉันก็จะเห็นเราอยู่ท่ามกลางแสงบนสอดส่องผ่านภูเขา
Although I am broken my heart is untamed stillx
แม้ว่าฉันจะอกหักและหัวใจไม่ฟังตามคำสั่งของฉัน

And I'll be gone gone tonight
ในคืนนี้ฉันจะขอเดินจากไปเอง
The fire beneath my feet is burning bright
ไฟใต้ฝ่าเท้าฉันเริ่มลุกโชติทุกที
The way that I been holdin' on so tight
ฉันยึดติดกับความรักเกินไป
With nothing in between
จนไม่มีอะไรดีๆเกิดขึ้นกับฉันเลย

And I been waiting for this time to come around
ฉันเฝ้ารอเวลาที่เราจะแยกจากกันมานาน
But baby running after you is like chasing the clouds
แต่ที่รัก การวิ่งตามหลังคุณมันเหมือนกับการวิ่งไล่ล่าความฝัน



Hold on too tightly เป็นสำนวนที่หมายถึงการยึดติดกับสิ่งหนึ่งๆมากเกินไป 

The story of my life เป็นคำแสลงประมาณประชดประชันว่า นี่แหละชีวิตเฮงซวยของฉัน! 

Chasing the clouds หมายถึง การไล่ล่าความฝัน

วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ตอนจบของThor : The Dark World มันเป็นยังไงกันแน่?



Dark World ถือว่าเป็นภาคที่สองที่ต่อจากภาคแรก

เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับธอร์ ผู้ที่นำความสงบสุขของบ้านเมือง เขาเกิดอาการคิดถึงคนรัก(lovesick)ที่อยู่อีกโลกหนึ่ง แต่พ่อของธอร์(Odin)กลับอยากจะให้ธอร์เป็นคนครองบัลลังก์ต่อจากเขา 


ในฉากสุดท้ายของหนังเป็นฉากที่ธอร์คุยกับOdinว่า

 เขาไม่ต้องการที่จะครองบังลังก์ ไม่เหมาะสมที่จะเป็นคิงซะด้วยซ้ำ

และธอร์ก็พูดอีกว่าเขาไม่เคยเป็นพี่ชายที่ดีเลย 

โลกิเหมาะสมที่จะเป็นคิงมากที่สุด ฉากนี้ถือเป็นฉากที่เยี่ยมยอดของหนังฉากหนึ่ง 

เป็นการถ่ายอารมณ์ระหว่างพ่อกับลูก


แต่หลังจากที่ธอร์เดินออกไป...โอดินก็กลายเป็นโลกิ(?) 

หลายๆคนที่ดูThor : The Dark World จบ ก็อาจจะเกิดอาการงง ว่าสรุปแล้วตอนสุดท้ายเรื่องราวมันเป็นยังไงแน่ โลกิไม่ตายเหรอ แล้วพ่อธอร์(Odin)ล่ะ? ไปไหน

หากใครได้ดูPost-Credit ก็จะเข้าใจขึ้นนิดนึง(?)

เป็นฉากที่ลูกน้องของโอดินกลับมาจากDark Wolrd และพูดกับโอดินว่า "ผมเจอร่างของเขาแล้ว" และโอดินก็หันไปที่ลูกน้องของตัวเองและพูดว่า "โลกิ"

ทำให้รู้ว่าคนที่นั่งบังลังก์อยู่นั่นก็คือ โลกิ

คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ....
1.โอดินตายแล้วเหรอ?

คำตอบ: มันก็ไม่เชิงซะอย่างนั้น โอดินได้ถูกกักขังไว้ที่ไหนสักแห่ง
และในภาคต่อไปของธอร์จะเป็นการตามหาโอดิน 

2.แล้วความหมายของคำว่า "Asgard ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว"มันคืออะไรกันแน่?

คำตอบ: มันฟังดูแปลกๆนะ แต่ไม่ล่ะ โลกิต้องการที่จะครองAsgard 
และเขาก็ทำฝันนั้นสำเร็จ แม้ว่าโลกิจะต้องปลอมเป็นอีกคนหนึ่ง 
เพื่อให้Asgardสงบเถอะ โดยในภาคต่อไป โลกิ ผู้ปกครองAsgardเพียงผู้เดียว 
เกิดความกระหายในอาณาจักร เขาจึงจัดกำลังทหารเตรียมไปบุกโลกมนุษย์

3.ภาคDark World ธอร์เป็นดาวเด่นในเรื่องจริงๆเหรอ? 

คำตอบ: โลกิเป็นตัวละครแรกที่โผล่และเป็นตัวละครสุดท้ายที่โผล่มาในตอนจบ หลายๆตัวละครในหนังหยุดที่จะเชื่อใจโลกิ แต่เขากลับสร้างมันขึ้นใหม่และนำกำลังทหารไปบุกโลกมนุษย์ ดังนั้นอย่าตกใจที่เราจะเห็นโลกิเป็นตัวดำเนินเรื่อง

  โดยสรุปๆแล้วเราต้องรอดูธอร์กับเอเวนเจอร์ภาคต่อไปถึงจะกระจ่างแจ้งนั่นเอง -_- 

 


Credit by PopWatch

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แปลเพลง Let Me Go - Avril Lavigne



Love that once hung on the wall
ความรักเป็นสิ่งหนึ่งที่แขวนอยู่บนกำแพง
Used to mean something, but now it means nothing
มันเคยความอะไรบางอย่างแต่ตอนนี้มันกลับไร้ค่า
The echoes are gone in the hall
เสียงก้องกังกาลทั้งหลายในฮอลมันได้จากไปแล้ว
But I still remember, the pain of december
แต่ฉันก็ยังคงจดจำบาดแผลในเดือนธันวาคม

Oh, there isn't one thing left you could say
มันไม่อะไรเหลือให้เธอพูดหรอกนะ
I'm sorry it's too late
ฉันขอโทษ มันสายเกินไปแล้ว

I'm breaking free from these memories
ฉันปลดปล่อยอิสระจากความทรงจำเหล่านั้น
Gotta let it go, just let it go
ปล่อยให้มันจากไป เพียงแค่ให้จากไป
I've said goodbye
ฉันกล่าวคำบอกลา
Set it all on fire
เผามันทั้งหมดในกองไฟ
Gotta let it go, just let it go
ปล่อยให้มันจากไป เพียงแค่ปล่อยจากไป

You came back to find I was gone
เธอกลับมาแล้วพบว่าฉันจากไป
And that place is empty, like the hole 
that was left in me
ที่ตรงนั่นช่างเปล่าเหมือนกับหลุมที่เข้าในใจฉัน
Like we were nothing at all
อย่างกับว่าเราไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
It's not that you meant to me
มันไม่ใช่ว่าเธอไม่มีความหมายกับฉัน
Thought we were meant to be
ฉันเคยคิดว่าเราเกิดมาเพื่อกันและกัน

I let it go, and now I know
ฉันปล่อยมันจากไป และตอนนี้ฉันก็รู้แล้ว
A brand new life, this tale is rude
ชีวิตใหม่ มันช่างแย่มากๆ
Where it's right, you always know
ที่ๆเหมาะที่สุด เธอรูัมันเสมอ
So this time, I won't let go
เพราะงั้นตอนนี้ ฉันจะไม่ไปอีกแล้ว

There's only one thing left here to say
ยังมีเพียงสิ่งหนึ่งที่เหลือไว้ให้พูด
Love's never too late
ความรักไม่มีคำว่าสายเกินไปหรอกนะ

I've broken free from these memories
ฉันเคยปลดปล่อยความทรงจำให้เป็นอิสระ
I've let it go, I've let it go
เคยปล่อยมันจาก
And two goodbyes, lend you this new life
และสองคำบอกลาก็นำชีวิตใหม่มาให้กับเธอ
Don't let me go, don't let me go
อย่าปล่อยฉันไป 

Won't let you go, don't let me go
จะไม่ให้เธอไปและอย่าปล่อยให้ฉันไป