วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

แปล Unkiss - Maroon 5




If you respect me
ถ้าเธอให้เกียรติฉันจริงๆ
Don't protect me
โปรดอย่าห่วงฉัน
You can tell me,
เธอบอกมาตรงๆได้
I can handle it
ฉันรับกับมันได้จริงๆ
Stop pretending 'cause we're going down
หยุดทำมันเถอะ เพราะมันยิ่งทำให้เราต่างก็รู้สึกแย่ลงทุกที

If you let go
ถ้าเธอจะไป
Then just let go
ก็ขอให้เธอเดินไปเลย
It's disrespectful
มันเป็นอะไรที่แย่มาก
How you've handled this
กับวิธีที่เธอจัดการกับปัญหานี้
Never ending, kinda run around
มันจะไม่มีวันและมันจะวิ่งวนไปมาอยู่แค่นี้

I lied to my heart 'cause I thought you felt it
ฉันโกหกใจตัวเองเพราะฉันคิดว่าเธอรู้สึกแบบเดียวกับฉัน
You can't light a fire, if the candle's melted
ต่อให้ฉันพยายามเท่าไหน มทันก็ไม่มีกลับมาเหมือนเดิม ถ้าเธอหมดรักฉันแล้ว

(เปรียบเทียบเหมือนการจุดเทียน ถ้าเทียนละลายหมดไปแล้ว
ต่อให้พยายามจุดแค่ไหนก็ไม่มีทางจุดให้ติดไฟได้)

No, you don't have to love me if you don't wanna
มันไม่จำเป็นที่ต้องฝืนรักต่อ ถ้าใจเธอไม่ต้องการ
Don't act like I mean nothing
อย่าทำเหมือนฉันไม่มีความหมายต่อเธอสิ
But if you're gonna, well, then you better
แต่ถ้าเธอยังดื้อทำต่อ ฉันว่างั้นเธอก็ควรที่จะ

Unkiss me,
เลิกจูบฉัน
Untouch me
เลิกยุ่งกับฉัน
Untake this heart
เลิกให้ความหวังกับฉัน
And I'm missing
ฉันยอมสูญเสียเธอ
Just one thing
แค่อย่างเดียว
A brand new start
เพื่อให้อะไรๆมันดีขึ้น

Can't erase this,
ฉันลบเธอออกไปไม่ได้
Can't delete this,
ลบความทรงจำออกไม่ได้
I don't need this,
แต่ฉันก็ไม่ต้องการมัน
I can't handle it
ถึงฉันยังทำใจไม่ได้
I just feel it that you're over us
แต่ฉันก็รู้ว่าคนที่จบความรักเราก็คือเธอ

If I wait here,
ถ้าฉันยังยืนอยู่ตรงนี้
If I see you
เจอหน้าเธออยู่อย่างนี้
It won't matter,
มันจะมีประโยชน์อะไร
What's the point of this?
เราจะได้อะไรจากมัน
We're in pieces because you're over us
เพราะเธอเป็นคนทำให้เราทั้งสองเจ็บปวดใจ

So, baby, let go
ถ้าเธออยากเดินจาก
Gotta let go
ก็เดินจากไปเลย
It's disrespectful
เพราะมันเป็นอะไรที่แย่มาก
I can handle this
ฉันรับมันได้จริงๆ
Never ending, kinda run around
ถ้าเธอยังยื้อ มันจะไม่มีวัน มันจะวนเวียนอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ

แปล Space - One Direction



หลายคนบ่นไม่ชอบอัลบั้มใหม่ของหน่มๆวันได
เพราะอัลบั้มนี้มันค่อนข้างโตและดูเป็นผู้ใหญ่จนเกินไป
แต่สำหรับเวสกัสแล้ว เวสกัสกลับชอมอัลบั้มนี้
ชอบรองจากอัลบั้มก่อน midnight memoriesด้วย
อัลบั้ม Four ไม่ได้ป็อปใสบงแบ๊วเหมือนสองอัลบั้มแรกที่สาวๆหลายคนตกหลุมรัก
แต่มันกลับมีกลิ่นอายอิเล็คทรอระหว่างยุค70กับยุค80 สอดแทรกอยู่
หากใครได้ฟังแล้ว เวสกัสรับรองว่าคุณจะต้องคิดถึงยุค80's อย่างแน่นอน
เพลงSpace เป็นเพลงแทร็กที่10 ของ อัลบั้มFour ที่ได้ Ryan Tedder มาช่วยแต่ง
เพลงนี้ก็ถือเป็นเพลงหนึ่งในอัลบั้มที่มีความหมายดีอีกเพลงหนึ่งเลยก็ว่าได้


Who's gonna be the first one to start the fight
ใครกัน ที่จะเป็นคนแรกที่เปิดสงครามทะเลาะ

Who's gonna be the first one to fall asleep at night
ใครกัน ที่จะที่หลับสนิทกลางค่ำคืนเป็นคนแรก

Who's gonna be the last one drive away
ใครกัน ที่จะเป็นคนสุดท้ายที่เดินจากไป

Who's gonna be the last one to forget this place
แล้วใครล่ะ ที่จะเป็นคนสุดท้ายที่จะลืมที่ๆเรากันตรงนี้

We keep taking turns
เราต่างคนต่างยื้อกันไป

Will we ever learn
แล้วเราจะรู้กันมั้ยว่า


Ooh spaces between us keep getting deeper
ช่องว่างที่เพิ่มขึ้นระหว่างเรานี้แหละ

It’s harder to reach ya even though I try

ยิ่งทำให้ฉันเข้าใกล้เธอยากขึ้นทุกที แม้จะพยายามมากสักเท่าไหร่

Spaces between us hold all our secrets
ช่องว่างระหว่างเราทั้งสองเผยให้รู้ในสิ่งที่เราไม่เคยพูดออกมา

Leaving us speechless and I don't know why

ทำให้เรายิ่งไม่หันหน้ามาคุยกัน และฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้

Who's gonna be the first to say goodbye

ใครกันที่จะเป็นคนยอมแพ้เป็นคนแรก

Who's gonna be the first one to compromise
ใครกันที่จะผิดสัญญาเป็นคนแรก

Who's gonna be the first one to set it all on fire
ใครล่ะที่จะเป็นคนแรกที่ละทิ้งทุกอย่างของเราไป

Who's gonna be the last one to drive away
แล้วใครที่จะเป็นคนสุดท้ายที่เดินออกจากตรงนี้

Forgetting every single promise we ever made

และลืมทุกสัญญาที่เราสองคนเคยให้ไว้แก่กัน